ความสำคัญของนมแม่ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือการให้ความรัก การให้นมลูก
  • พ่อแม่เลี้ยงดูลูกอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ?

  • Don't miss these 10 Aurora Images

  • iPhotographs

  • Exotic Cars

  • บทความล่าสุด



    ญาติมิตร เพื่อนฝูง

    แม่และเด็ก

    เมื่อคุณแม่พาลูกใหม่กลับบ้าน ก็มักจะมีญาติมิตร เพื่อนฝูงมาเยี่ยมเยียนแสดงความยินดี ในกรณีนี้ ถ้าคุณพ่อจะช่วยรับแขกแทนก็จะช่วยคุณแม่ได้มาก เพราะหลังคลอดร่างกายมักอ่อนเพลีย ถ้าต้องรับแขกมาก ๆ จะเหนื่อยง่าย ทั้งยังมีผลต่อการผลิตน้ำนมอีกด้วย และข้อสำคัญที่คุณจะต้องระวังคือ อย่าให้แขกอุ้มลูก ขอร้องให้ดูอยู่ห่าง ๆ เรื่องนี้คุณต้องเข้าใจ เพราะมีหลายรายที่ขัดญาติพี่น้อง คุณย่าคุณยายไม่ได้ ยอมให้อุ้มแล้วต้องมาทุกข์หนักภายหลัง เพราะลูกไปติดหวัดเข้า ทารกในเดือนแรก ถ้าเป็นหวัด อาการจะหนักมาก โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดร่ากายไม่แข็งแรง อาจกลายเป็นปอดบวมได้ง่าย ๆ และที่สำคัญที่สุดที่ต้องระวังจงหนัก คือวัณโรค ที่สามารติดจากการจูบเด็ก ถ้าลูกน้อยจองคุณเป็นเข้าก็แย่ โดยเฉพาะถ้าเกิดเชื้อวัณโรคขึ้นสมองเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ก็อาจทำให้เด็กพิการหรือตายได้

    สำหรับคำแนะนำต่าง ๆ จากญาติมิตรเพื่อนฝูงนั้น คุณจะปฏิบัติตามหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง เช่น การอยู่ไฟ การกินยาดองเหล้า การใช้ยากวาดลิ้น มหาหิงค์ ซึ่งแต่ละอย่าง ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าอย่างไหนมมีข้อเสียมากนัก และจะมีผลดีในเรื่องความราบรื่นในครอบครัว (เช่น ไม่ต้องทะเลากับคุณย่า ซึ่งจะทำให้คุณแม่เป็นกังวล) คุณก็เลือกปฏิบัติตาม

    อย่างไรก็ตาม มีคำแนะนำอย่างหนึ่งที่คุณไม่ควรปฏิบัติตามเป็นอันขาด คือ “ไม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่” (ทั้งนี้ไม่รวมถึงคำแนะนำของหมอเนื่องจากตัวคุณแม่เป็นโรคติดต่อ ฯลฯ)

    มีคุณแม่ที่กินยาดองเหล้าแล้วให้นมลูก ทำให้ทารกเกิดมีอาการซีด ซึม มีเลือดออกในสมอง คุณแม่มักจะพามาตอนอายุได้เดือนกว่า ๆ หรือระยะ 2-4 เดือน ที่ช่วยทันก็ดีไป ที่ช่วยไม่ได้ก็หลายรายแล้ว ดังนั้นจะกินอะไร ต้องนึกถึงความปลอดภัยของลูกไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

     
    แม่และเด็ก

    การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดและคำแนะนำของญาติพี่น้อง

    rutchapong  |  at   03:08



    ญาติมิตร เพื่อนฝูง

    แม่และเด็ก

    เมื่อคุณแม่พาลูกใหม่กลับบ้าน ก็มักจะมีญาติมิตร เพื่อนฝูงมาเยี่ยมเยียนแสดงความยินดี ในกรณีนี้ ถ้าคุณพ่อจะช่วยรับแขกแทนก็จะช่วยคุณแม่ได้มาก เพราะหลังคลอดร่างกายมักอ่อนเพลีย ถ้าต้องรับแขกมาก ๆ จะเหนื่อยง่าย ทั้งยังมีผลต่อการผลิตน้ำนมอีกด้วย และข้อสำคัญที่คุณจะต้องระวังคือ อย่าให้แขกอุ้มลูก ขอร้องให้ดูอยู่ห่าง ๆ เรื่องนี้คุณต้องเข้าใจ เพราะมีหลายรายที่ขัดญาติพี่น้อง คุณย่าคุณยายไม่ได้ ยอมให้อุ้มแล้วต้องมาทุกข์หนักภายหลัง เพราะลูกไปติดหวัดเข้า ทารกในเดือนแรก ถ้าเป็นหวัด อาการจะหนักมาก โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดร่ากายไม่แข็งแรง อาจกลายเป็นปอดบวมได้ง่าย ๆ และที่สำคัญที่สุดที่ต้องระวังจงหนัก คือวัณโรค ที่สามารติดจากการจูบเด็ก ถ้าลูกน้อยจองคุณเป็นเข้าก็แย่ โดยเฉพาะถ้าเกิดเชื้อวัณโรคขึ้นสมองเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ก็อาจทำให้เด็กพิการหรือตายได้

    สำหรับคำแนะนำต่าง ๆ จากญาติมิตรเพื่อนฝูงนั้น คุณจะปฏิบัติตามหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง เช่น การอยู่ไฟ การกินยาดองเหล้า การใช้ยากวาดลิ้น มหาหิงค์ ซึ่งแต่ละอย่าง ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าอย่างไหนมมีข้อเสียมากนัก และจะมีผลดีในเรื่องความราบรื่นในครอบครัว (เช่น ไม่ต้องทะเลากับคุณย่า ซึ่งจะทำให้คุณแม่เป็นกังวล) คุณก็เลือกปฏิบัติตาม

    อย่างไรก็ตาม มีคำแนะนำอย่างหนึ่งที่คุณไม่ควรปฏิบัติตามเป็นอันขาด คือ “ไม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่” (ทั้งนี้ไม่รวมถึงคำแนะนำของหมอเนื่องจากตัวคุณแม่เป็นโรคติดต่อ ฯลฯ)

    มีคุณแม่ที่กินยาดองเหล้าแล้วให้นมลูก ทำให้ทารกเกิดมีอาการซีด ซึม มีเลือดออกในสมอง คุณแม่มักจะพามาตอนอายุได้เดือนกว่า ๆ หรือระยะ 2-4 เดือน ที่ช่วยทันก็ดีไป ที่ช่วยไม่ได้ก็หลายรายแล้ว ดังนั้นจะกินอะไร ต้องนึกถึงความปลอดภัยของลูกไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

     



    คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจคิดว่าลูกคนโตคงจะดีใจเหมือนพ่อแม่ที่จะมีน้องใหม่ เพราะพ่อแม่ดีใจ พี่ก็คงจะดีใจเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วการมีน้องใหม่มักเป็นเรื่องเศร้าสำหรับลูกคนโตมากกว่าที่จะเป็นเรื่องดีใจ เพราะก่อนคลอดพ่อแม่ก็มักจะยุ่งกับการเตรียมเครื่องใช้เด็ก คนรอบด้านมักจะพูดว่า “แม่ไม่เอาหนูแล้วแม่จะได้น้องใหม่แล้ว” เป็นต้น ทำให้ลุกคนโตรู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง

    การดูแลแม่และเด็ก

    ยิ่งตอนที่แม่ไปคลอดที่โรงพยาบาลไม่เห็นหน้าแม่หลายวัน ร้องได้เท่าไรแม่ก็ไม่กลับมา เวลานอนก็ไม่มีแม่ ถึงจะนอนกับพ่อก็ไม่เหมือนนอนกับแม่ ตั้งหน้าตั้งตาคอยแม่อยู่หลายวัน ถึงเวลาแม่กลับบ้าน พอเห็นหน้าแม่ หนูก็ดีใจกระโดดโลดเต้นแต่แทนที่แม่จะเข้ามาเล่นหัวปลอบประโลมให้สมกับที่หนูคอยมานาน แม่กลับต้องไปดูแลน้องใหม่เสี่ยนี่ เดี๋ยวให้นม เดี๋ยวเช็ดก้นให้ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ หนูลูกคนโตเห็นอย่างนั้นก็ย่อมอิจฉาน้อง เกลียดน้องเป็นธรรมดา

    เคยมีกรณีเด็ก 2 ขวบ เอาถุงพลาสติกครอบหัวน้องอายุ 50 วัน จนหายใจไม่ออกตาย เพราะฉะนั้นเรื่องความรู้สึกของลูกคนโตเป็นเรื่องที่จะนิ่งดูดายไม่ได้ เมื่อคุณแม่กลับจากโรงพยาบาล คนที่ควรเอาใจใส่คนแรกคือ ลูกคนโตที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยแม่หลายวัน ถ้าลูกคนโตอายุต่ำกว่า 3 ขวบ คุณไม่ควรให้นมน้องต่อหน้าพี่ และตอนกลับจากโรงพยาบาลคุณควรหาของเล่นใหม่ให้แก่ลูกคนโต เพื่อเบนความสนใจของแกมี่ของเล่น

    เรื่องอิจฉาน้องนี้ เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอิจฉามาก บางคนก็ไม่อิจฉาเลย แล้วแต่นิสัยของเด็กแต่ละคน คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตลูกเอาเอง

    ถึงแม้คุณอยากจะให้พี่ใกล้ชิดกับน้อง เพื่อป้องกันเรื่องอิจฉาน้องก็ตาม แต่ถ้าลูกคนโตป่วย มีอาการไอ หรือมีน้ำมูก ก็อย่าให้อยู่ห้องเดียวกับน้องใหม่ โดยเฉพาะถ้าลูกคนโตป่วยเป็นโรคติดต่อ ในกรณีที่ลูกคนโตเป็นไอกรนต้องระวังจะติดต่อสู่น้องได้ และถึงแม้จะหายแล้วแต่จะยังมีเชื้ออยู่ในร่างกายประมาณหนึ่งเดือน (ยกเว้น ถ้าได้ยาปฏิชีวนะที่ถูกต้อง เชื้อไอกรนจะถูกฆ่าตาย) คุณต้องแยกลุกจากกันอย่างน้อยหนึ่งเดือน ถ้าทารกอายุไม่ถึงเดือนได้รับเชื้อไอกรน อาการจะหนักและทรมาน คุณแม่ควรระวังให้จงหนัก

    ถ้าลูกคนโตเป็นคอตีบ หรือท้องร่วง ก็คงต้องเข้าโรงพยาบาลและหมอคงให้กลับบ้านก็ต่อเมื่อปลอดจากเชื้อโรคแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคุณควรแยกลูกทั้งไว้สักอาทิตย์หนึ่งจึงจะปลอดภัย

    พวก หอบ หืด แพ้อากาศ ลมพิษขึ้น เป็นโรคที่ไม่ติดต่อทารก แต่พวกแผลพุพองต้องระวัง อาจติดต่อได้จากการสัมผัสถูกน้ำเหลือง

    ไปหน้าแรก  การดูแลเด็ก
     
    แม่และเด็ก

    การดูแลลูกคนโตเมื่อมีน้องเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง

    rutchapong  |  at   03:02



    คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจคิดว่าลูกคนโตคงจะดีใจเหมือนพ่อแม่ที่จะมีน้องใหม่ เพราะพ่อแม่ดีใจ พี่ก็คงจะดีใจเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วการมีน้องใหม่มักเป็นเรื่องเศร้าสำหรับลูกคนโตมากกว่าที่จะเป็นเรื่องดีใจ เพราะก่อนคลอดพ่อแม่ก็มักจะยุ่งกับการเตรียมเครื่องใช้เด็ก คนรอบด้านมักจะพูดว่า “แม่ไม่เอาหนูแล้วแม่จะได้น้องใหม่แล้ว” เป็นต้น ทำให้ลุกคนโตรู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง

    การดูแลแม่และเด็ก

    ยิ่งตอนที่แม่ไปคลอดที่โรงพยาบาลไม่เห็นหน้าแม่หลายวัน ร้องได้เท่าไรแม่ก็ไม่กลับมา เวลานอนก็ไม่มีแม่ ถึงจะนอนกับพ่อก็ไม่เหมือนนอนกับแม่ ตั้งหน้าตั้งตาคอยแม่อยู่หลายวัน ถึงเวลาแม่กลับบ้าน พอเห็นหน้าแม่ หนูก็ดีใจกระโดดโลดเต้นแต่แทนที่แม่จะเข้ามาเล่นหัวปลอบประโลมให้สมกับที่หนูคอยมานาน แม่กลับต้องไปดูแลน้องใหม่เสี่ยนี่ เดี๋ยวให้นม เดี๋ยวเช็ดก้นให้ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ หนูลูกคนโตเห็นอย่างนั้นก็ย่อมอิจฉาน้อง เกลียดน้องเป็นธรรมดา

    เคยมีกรณีเด็ก 2 ขวบ เอาถุงพลาสติกครอบหัวน้องอายุ 50 วัน จนหายใจไม่ออกตาย เพราะฉะนั้นเรื่องความรู้สึกของลูกคนโตเป็นเรื่องที่จะนิ่งดูดายไม่ได้ เมื่อคุณแม่กลับจากโรงพยาบาล คนที่ควรเอาใจใส่คนแรกคือ ลูกคนโตที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยแม่หลายวัน ถ้าลูกคนโตอายุต่ำกว่า 3 ขวบ คุณไม่ควรให้นมน้องต่อหน้าพี่ และตอนกลับจากโรงพยาบาลคุณควรหาของเล่นใหม่ให้แก่ลูกคนโต เพื่อเบนความสนใจของแกมี่ของเล่น

    เรื่องอิจฉาน้องนี้ เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอิจฉามาก บางคนก็ไม่อิจฉาเลย แล้วแต่นิสัยของเด็กแต่ละคน คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตลูกเอาเอง

    ถึงแม้คุณอยากจะให้พี่ใกล้ชิดกับน้อง เพื่อป้องกันเรื่องอิจฉาน้องก็ตาม แต่ถ้าลูกคนโตป่วย มีอาการไอ หรือมีน้ำมูก ก็อย่าให้อยู่ห้องเดียวกับน้องใหม่ โดยเฉพาะถ้าลูกคนโตป่วยเป็นโรคติดต่อ ในกรณีที่ลูกคนโตเป็นไอกรนต้องระวังจะติดต่อสู่น้องได้ และถึงแม้จะหายแล้วแต่จะยังมีเชื้ออยู่ในร่างกายประมาณหนึ่งเดือน (ยกเว้น ถ้าได้ยาปฏิชีวนะที่ถูกต้อง เชื้อไอกรนจะถูกฆ่าตาย) คุณต้องแยกลุกจากกันอย่างน้อยหนึ่งเดือน ถ้าทารกอายุไม่ถึงเดือนได้รับเชื้อไอกรน อาการจะหนักและทรมาน คุณแม่ควรระวังให้จงหนัก

    ถ้าลูกคนโตเป็นคอตีบ หรือท้องร่วง ก็คงต้องเข้าโรงพยาบาลและหมอคงให้กลับบ้านก็ต่อเมื่อปลอดจากเชื้อโรคแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคุณควรแยกลูกทั้งไว้สักอาทิตย์หนึ่งจึงจะปลอดภัย

    พวก หอบ หืด แพ้อากาศ ลมพิษขึ้น เป็นโรคที่ไม่ติดต่อทารก แต่พวกแผลพุพองต้องระวัง อาจติดต่อได้จากการสัมผัสถูกน้ำเหลือง

    ไปหน้าแรก  การดูแลเด็ก
     

    การอาบน้ำให้เด็ก

    การอาบน้ำให้เด็ก

    สำหรับคุณแม่ที่คลอดลูกที่โรงพยาบาล ก่อนจะออกจากโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะสอนวิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิดให้ และสำหรับคนที่คลอดที่บ้าน ญาติผู้ใหญ่ก็คงสอนให้

    ข้อควรระวังในการอาบน้ำเด็กคือ อย่าให้น้ำร้อนเกินไป อุณหภูมิของน้ำควรเท่ากับอุณหภูมิร่างกาย คุณเอามือจุ่มลงไปแล้วไม่รู้สึกร้อน ระวังอย่าให้น้ำเข้าหู เพราะจะทำให้เป็นโรคหูน้ำหนวกได้ และอย่าให้เด็กแช่น้ำนานเกินไป ควรอาบให้เสร็จภายใน 5-7 นาที

    สำหรับเมืองเราอากาศร้อน คุณควรอาบน้ำให้ลูกวันละ 2-3 ครั้ง ตอนสายกับตอนบ่ายและตอนเย็น และสระผมวันละครั้งทุกวัน เวลาสระผมระวังอย่าให้สบู่เข้าตาเด็ก ไม่ควรอาบน้ำเด็กทันทีหลังให้นม ควรพักสักหนึ่งชั่วโมงก่อนจึงอาบ เวลาอากาศร้อน หลังอาบน้ำเด็กมักจะกระหายน้ำ ควรให้เด็กได้ดื่มน้ำต้มสุกหรือน้ำผลไม้สัก 20-30 ซีซี เพื่อช่วยลดอาการกระหายน้ำของเด็ก


    ไปหน้าแรก  การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
    แม่และเด็ก

    การอาบน้ำให้กับเด็กแรกเกิด

    rutchapong  |  at   01:10

    การอาบน้ำให้เด็ก

    การอาบน้ำให้เด็ก

    สำหรับคุณแม่ที่คลอดลูกที่โรงพยาบาล ก่อนจะออกจากโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะสอนวิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิดให้ และสำหรับคนที่คลอดที่บ้าน ญาติผู้ใหญ่ก็คงสอนให้

    ข้อควรระวังในการอาบน้ำเด็กคือ อย่าให้น้ำร้อนเกินไป อุณหภูมิของน้ำควรเท่ากับอุณหภูมิร่างกาย คุณเอามือจุ่มลงไปแล้วไม่รู้สึกร้อน ระวังอย่าให้น้ำเข้าหู เพราะจะทำให้เป็นโรคหูน้ำหนวกได้ และอย่าให้เด็กแช่น้ำนานเกินไป ควรอาบให้เสร็จภายใน 5-7 นาที

    สำหรับเมืองเราอากาศร้อน คุณควรอาบน้ำให้ลูกวันละ 2-3 ครั้ง ตอนสายกับตอนบ่ายและตอนเย็น และสระผมวันละครั้งทุกวัน เวลาสระผมระวังอย่าให้สบู่เข้าตาเด็ก ไม่ควรอาบน้ำเด็กทันทีหลังให้นม ควรพักสักหนึ่งชั่วโมงก่อนจึงอาบ เวลาอากาศร้อน หลังอาบน้ำเด็กมักจะกระหายน้ำ ควรให้เด็กได้ดื่มน้ำต้มสุกหรือน้ำผลไม้สัก 20-30 ซีซี เพื่อช่วยลดอาการกระหายน้ำของเด็ก


    ไปหน้าแรก  การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

    เสื้อ ผ้าอ้อม ผ้ายาง กางเกงกันเปียก สำหรับเด็กแรกเกิด

    ผ้าอ้อมเด็ก การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

    สิ่งสำคัญเกี่ยวกับเสื้อเด็กก็คือ ต้องสวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น ซับเหงื่อได้ดี อากาศผ่านได้ดี และไม่ประดับประดารุงรัง เวลาคุณจะซื้อเสื้อควรเลือกแบบที่เรียบง่าย ไม่มีสิ่งประดับ เช่น ริบบิ้น ลูกไม้ติดจนเต็ม แขนเสื้อกว้าง จะทำให้สะดวกเวลาสวม เนื้อผ้าควรเป็นผ้าใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าขนหนู ไม่ควรใช้ผ้าใยสังเคราะห์ เช่น ผ้าไนล่อน เพราะไม่ซับเหงื่อ เด็กใส่ไม่สบาย ควรเลือกเสื้อที่เย็บเก็บตะเข็บเรียบร้อย เวลาซักแล้วตะเข็บไม่ลุ่ย เพราะด้ายที่ลุ่ยออกมาอาจพันนิ้วเด็กได้ ถ้าคุณมีเวลาเย็บเอง เสื้อเด็กอ่อนควรเย็บตะเข็บไว้ด้านนอก แทนที่จะเย็บไว้ด้านในเหมือนเสื้อทั่วไป ตะเข็บจะได้ไม่ระคายผิวอ่อนบางของทารก และไม่ควรเตรียมเสื้อผ้าไว้มากเกินไป เพราะเด็กเติบโตเร็วมาก จะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

    ผ้าอ้อม คนไทยสมัยก่อนและชาวชนบทในปัจจุบัน มักนำผ้าถุงเก่า ๆ มาตัดเป็นสี่เหลี่ยมเพื่อทำผ้าอ้อม ซึ่งเป็นความคิดที่ดีมาก เพราะนอกจากจะประหยัดแล้วผ้าถุงซึ่งทำด้วยผ้าฝ้าย เมื่อใช้เก่าแล้วเนื้อผ้าจะอ่อนนุ่มกว่าผ้าใหม่ ทั้งยังดุดซับน้ำได้ดีกว่า และตากแห้งได้เร็วกว่า แต่คนในเมืองสมัยนี้ใช้ผ้าถุงกันน้อยลง จึงไม่มีผ้าถุงเก่า ๆ มาทำผ้าอ้อม ต้องซื้อผ้าอ้อมที่ทำสำเร็จรูป หรือซื้อผ้าสาลูสีขาวมาตัดเย็บเป็นผ้าอ้อมเอง ควรเตรียมผ้าอ้อมไว้อย่างน้อย 4 โหล เพราะเด็กจะถ่ายบ่อยมาก ถ้ามีน้อยคุณจะต้องมานั่งเสียเวลาซักผ้าอ้อมบ่อย ๆ

    ใช้ผ้าอ้อมสองผืน ผืนแรกพับครึ่ง เป็นรูปสามเหลี่ยม อีกผืนหนึ่งพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสำหรับวางตรงกลางเป็นผ้าวับ หลักในการพับผ้าผืนที่สองซึ่งเป็นผ้าพับสำหรับเด็กผู้ชาย ให้เอาส่วนที่พับสองทบไว้ด้านหน้า เด็กผู้หญิงให้ไว้ด้านหลัง เพราะเวลา เด็กผู้ชายจะเปียกด้านหน้ามากกว่า แต่เด็กผู้หญิงจะเปียกด้านหลังมากกว่า ในกรณีที่คุณขี้เกียจจะซักผ้าอ้อมมากผืน หรือเวลาอากาศร้อนมาก จะนุ่งผืนสามเหลี่ยมผืนเดียวก็ได้ แต่ในกรณีนี้ ผ้าจะไม่ซับฉี่ จะช่วยไม่ให้เลอะเทอะในตอนที่เด็กอึเท่านั้น

    ถ้าคุณนุ่งผ้าอ้อมให้ลูกแล้ว เด็กเกิดเป็นผื่นแดงบริเวณต้นขาและก้น แสดงว่าลูกคุณขี้ร้อน ควรปล่อยให้ท่อนล่างเปลือย เด็กจะได้เย็นสบาย

    สำหรับผ้าอ้อมกระดาษนั้นราคาแพงมาก แต่ถ้าคุณมีเงินมากจริง ๆ ก็ใช้ได้ ส่วนมากเรามักใช้เวลาออกนอกบ้านหรือเวลาเดินทาง เพราะใช้แล้วทิ้งไปเลยสะดวกดี

    ผ้ายาง ผ้ายางธรรมดาราคาถูกจะไม่ซับน้ำ เพียงแต่กันเปียกได้อย่างเดียว ถ้าเด็กฉี่มากและไม่ได้นุ่งผ้าอ้อม ฉี่จะไหลนองลงมา ผ้ายางชนิดดีช่วยซับน้ำได้เป็นของต่างประเทศ ซึ่งราหนักกระเป๋าชาวบ้านธรรมดามิใช่น้อย และต้องใช้หลายผืน เพราะผ้าแบบนี้แห้งช้าและตากแดดไม่ได้ ทำให้เสียเร็ว

    กางเกงกันเปียก สำหรับอากาศในเมืองไทย คุณไม่ควรนุ่งกางเกงกันเปียกให้ลูกตลอดเวลา เว้นแต่เวลานอนห้องแอร์หรือเวลาพาออกนอกบ้านเพื่อกันคุณแม่เปื้อน หลักในการเลือกซื้อกางเกงกันเปียก มิใช่ว่ายิ่งกันเปียกได้ดีเท่าไรยิ่งดี กางเกงพลาสติกกันเปียกทั้งตัวนั้นไม่ดีแน่ เพราะเด็กจะร้อนอบมาก คุณควรเลือกของที่ทำด้วยผ้า อากาศถ่ายเทได้บ้างและกันเปียกได้พอสมควร เวลาพาลูกไปข้างนอกก็ใส่ผ้าอ้อมให้หนากว่าปกติหน่อย

    สำหรับเด็กในเดือนแรก เรามักไม่พาออกไปไหน เพราะฉะนั้นกางเกงกันเปียกตัวเล็ก ๆ สำหรับเด็กแรกเกิดจึงไม่ค่อยจำเป็น คุณไม่ต้องซื้อเตรียมไว้ก็ได้


    ไปหน้าแรก  การเลี้ยงดูเด็ก
    แม่และเด็ก

    สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการเลือกผ้าอ้อมและผ้าเด็ก

    rutchapong  |  at   00:43

    เสื้อ ผ้าอ้อม ผ้ายาง กางเกงกันเปียก สำหรับเด็กแรกเกิด

    ผ้าอ้อมเด็ก การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

    สิ่งสำคัญเกี่ยวกับเสื้อเด็กก็คือ ต้องสวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น ซับเหงื่อได้ดี อากาศผ่านได้ดี และไม่ประดับประดารุงรัง เวลาคุณจะซื้อเสื้อควรเลือกแบบที่เรียบง่าย ไม่มีสิ่งประดับ เช่น ริบบิ้น ลูกไม้ติดจนเต็ม แขนเสื้อกว้าง จะทำให้สะดวกเวลาสวม เนื้อผ้าควรเป็นผ้าใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าขนหนู ไม่ควรใช้ผ้าใยสังเคราะห์ เช่น ผ้าไนล่อน เพราะไม่ซับเหงื่อ เด็กใส่ไม่สบาย ควรเลือกเสื้อที่เย็บเก็บตะเข็บเรียบร้อย เวลาซักแล้วตะเข็บไม่ลุ่ย เพราะด้ายที่ลุ่ยออกมาอาจพันนิ้วเด็กได้ ถ้าคุณมีเวลาเย็บเอง เสื้อเด็กอ่อนควรเย็บตะเข็บไว้ด้านนอก แทนที่จะเย็บไว้ด้านในเหมือนเสื้อทั่วไป ตะเข็บจะได้ไม่ระคายผิวอ่อนบางของทารก และไม่ควรเตรียมเสื้อผ้าไว้มากเกินไป เพราะเด็กเติบโตเร็วมาก จะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

    ผ้าอ้อม คนไทยสมัยก่อนและชาวชนบทในปัจจุบัน มักนำผ้าถุงเก่า ๆ มาตัดเป็นสี่เหลี่ยมเพื่อทำผ้าอ้อม ซึ่งเป็นความคิดที่ดีมาก เพราะนอกจากจะประหยัดแล้วผ้าถุงซึ่งทำด้วยผ้าฝ้าย เมื่อใช้เก่าแล้วเนื้อผ้าจะอ่อนนุ่มกว่าผ้าใหม่ ทั้งยังดุดซับน้ำได้ดีกว่า และตากแห้งได้เร็วกว่า แต่คนในเมืองสมัยนี้ใช้ผ้าถุงกันน้อยลง จึงไม่มีผ้าถุงเก่า ๆ มาทำผ้าอ้อม ต้องซื้อผ้าอ้อมที่ทำสำเร็จรูป หรือซื้อผ้าสาลูสีขาวมาตัดเย็บเป็นผ้าอ้อมเอง ควรเตรียมผ้าอ้อมไว้อย่างน้อย 4 โหล เพราะเด็กจะถ่ายบ่อยมาก ถ้ามีน้อยคุณจะต้องมานั่งเสียเวลาซักผ้าอ้อมบ่อย ๆ

    ใช้ผ้าอ้อมสองผืน ผืนแรกพับครึ่ง เป็นรูปสามเหลี่ยม อีกผืนหนึ่งพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสำหรับวางตรงกลางเป็นผ้าวับ หลักในการพับผ้าผืนที่สองซึ่งเป็นผ้าพับสำหรับเด็กผู้ชาย ให้เอาส่วนที่พับสองทบไว้ด้านหน้า เด็กผู้หญิงให้ไว้ด้านหลัง เพราะเวลา เด็กผู้ชายจะเปียกด้านหน้ามากกว่า แต่เด็กผู้หญิงจะเปียกด้านหลังมากกว่า ในกรณีที่คุณขี้เกียจจะซักผ้าอ้อมมากผืน หรือเวลาอากาศร้อนมาก จะนุ่งผืนสามเหลี่ยมผืนเดียวก็ได้ แต่ในกรณีนี้ ผ้าจะไม่ซับฉี่ จะช่วยไม่ให้เลอะเทอะในตอนที่เด็กอึเท่านั้น

    ถ้าคุณนุ่งผ้าอ้อมให้ลูกแล้ว เด็กเกิดเป็นผื่นแดงบริเวณต้นขาและก้น แสดงว่าลูกคุณขี้ร้อน ควรปล่อยให้ท่อนล่างเปลือย เด็กจะได้เย็นสบาย

    สำหรับผ้าอ้อมกระดาษนั้นราคาแพงมาก แต่ถ้าคุณมีเงินมากจริง ๆ ก็ใช้ได้ ส่วนมากเรามักใช้เวลาออกนอกบ้านหรือเวลาเดินทาง เพราะใช้แล้วทิ้งไปเลยสะดวกดี

    ผ้ายาง ผ้ายางธรรมดาราคาถูกจะไม่ซับน้ำ เพียงแต่กันเปียกได้อย่างเดียว ถ้าเด็กฉี่มากและไม่ได้นุ่งผ้าอ้อม ฉี่จะไหลนองลงมา ผ้ายางชนิดดีช่วยซับน้ำได้เป็นของต่างประเทศ ซึ่งราหนักกระเป๋าชาวบ้านธรรมดามิใช่น้อย และต้องใช้หลายผืน เพราะผ้าแบบนี้แห้งช้าและตากแดดไม่ได้ ทำให้เสียเร็ว

    กางเกงกันเปียก สำหรับอากาศในเมืองไทย คุณไม่ควรนุ่งกางเกงกันเปียกให้ลูกตลอดเวลา เว้นแต่เวลานอนห้องแอร์หรือเวลาพาออกนอกบ้านเพื่อกันคุณแม่เปื้อน หลักในการเลือกซื้อกางเกงกันเปียก มิใช่ว่ายิ่งกันเปียกได้ดีเท่าไรยิ่งดี กางเกงพลาสติกกันเปียกทั้งตัวนั้นไม่ดีแน่ เพราะเด็กจะร้อนอบมาก คุณควรเลือกของที่ทำด้วยผ้า อากาศถ่ายเทได้บ้างและกันเปียกได้พอสมควร เวลาพาลูกไปข้างนอกก็ใส่ผ้าอ้อมให้หนากว่าปกติหน่อย

    สำหรับเด็กในเดือนแรก เรามักไม่พาออกไปไหน เพราะฉะนั้นกางเกงกันเปียกตัวเล็ก ๆ สำหรับเด็กแรกเกิดจึงไม่ค่อยจำเป็น คุณไม่ต้องซื้อเตรียมไว้ก็ได้


    ไปหน้าแรก  การเลี้ยงดูเด็ก

    การเตรียมที่นอน  หมอน มุ้ง ผ้าห่ม ให้กับเด็กแรกเกิด

    ที่นอนเด็ก การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

    ที่นอนสำหรับเด็กไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่ เป็นของที่คุณพ่อคุณแม่ใช้อยู่ก็ได้ แต่ที่นอนไม่ควรนุ่มเกินไปเพราะอาจมีอันตราย โดยเฉพาะเวลาเด็กนอนคว่ำ ที่นอนซึ่งนุ่มบุ๋มลงไปอาจปิดจมูกทำให้เด็กหายใจไม่ออกถึงแก่ชีวิตได้ คุณจะใช้ที่นอนผ้ายัดนุ่น หรือที่นอนฟองน้ำหุ้มด้วยพลาสติกก็ได้ ถ้าใช้ที่นอนผ้า ควรมีพลาสติกปูกันเปียก แล้วปูผ้าทับอีกทีหนึ่ง ถ้าใช้ที่นอนพลาสติก ควรมีผ้าปูที่นอนปูทับ เพื่อดูดซับเหงื่อของเด็ก มิฉะนั้นอาจะเป็นผดผื่นคันได้

    หมอนเด็กไม่ใช่ของจำเป็น เด็กไม่ต้องนอนหมอนก็ได้ โดยเฉพาะถ้าคุณให้ลูกนอนคว่ำ ก็ไม่ต้องใช้หมอน ถ้าอยากให้ลูกนอนหมอน หมอนเด็กควรจะแบนและไม่นุ่มเกินไป และต้องวักได้ เพราะเด็กมักแหวะนมลงบนหมอน ที่จริงถ้าคุณใช้ผ้าชนหนูพับเป็นหมอนให้ลูกก็จะประหยัดและทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

    มุ้ง มีทั้งประเภทมุ้งครอบและมุ้งคลุมเตียง คุณแม่จะเลือกใช้อย่างไหนก็แล้วแต่สะดวก ควรเลือกมุ้งที่โปร่งและขนาดใหญ่ เด็กจะได้ไม่ร้อนและควรทำความสะอาดบ่อย ๆ ด้วย

    ผ้าห่ม โดยทั่วไปเด็กมักจะขี้ร้อนกว่าผู้ใหญ่ นอกจากเขตที่มีอากาศหนาวเย็นทางภาคเหนือและอีสานแล้ว ผ้าห่มสำลีเกือบไม่จำเป็นสำหรับเด็กเลย สำหรับเขตที่อากาศไม่หนาว ใช้ผ้าขนหนูแทนจะดีกว่า เพราะช่วยดูดซับเหงื่อและทำความสะอาดได้

    ผ้าห่มเด็กมักเปียกบ่อย ๆ คุณแม่ควรมีผ้าขนหนูไว้หลาย ๆ ผืน และเอาไว้ใช้ได้หลายอย่าง ทำผ้าเช็ดตัวก็ได้ พับเป็นหมอนก็ได้ พับเป็นผ้ากั้นรอบ ๆ เตียงก็ได้ และเวลาอากาศร้อนมาก ใช้เป็นผ้าปูที่นอนจะช่วยดูดซับเหงื่อได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น





     ไปหน้าแรก  การดูแลเด็ก
    แม่และเด็ก

    การเลือกและเตรียมที่นอนให้กับเด็กแรกเกิด

    rutchapong  |  at   00:36

    การเตรียมที่นอน  หมอน มุ้ง ผ้าห่ม ให้กับเด็กแรกเกิด

    ที่นอนเด็ก การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

    ที่นอนสำหรับเด็กไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่ เป็นของที่คุณพ่อคุณแม่ใช้อยู่ก็ได้ แต่ที่นอนไม่ควรนุ่มเกินไปเพราะอาจมีอันตราย โดยเฉพาะเวลาเด็กนอนคว่ำ ที่นอนซึ่งนุ่มบุ๋มลงไปอาจปิดจมูกทำให้เด็กหายใจไม่ออกถึงแก่ชีวิตได้ คุณจะใช้ที่นอนผ้ายัดนุ่น หรือที่นอนฟองน้ำหุ้มด้วยพลาสติกก็ได้ ถ้าใช้ที่นอนผ้า ควรมีพลาสติกปูกันเปียก แล้วปูผ้าทับอีกทีหนึ่ง ถ้าใช้ที่นอนพลาสติก ควรมีผ้าปูที่นอนปูทับ เพื่อดูดซับเหงื่อของเด็ก มิฉะนั้นอาจะเป็นผดผื่นคันได้

    หมอนเด็กไม่ใช่ของจำเป็น เด็กไม่ต้องนอนหมอนก็ได้ โดยเฉพาะถ้าคุณให้ลูกนอนคว่ำ ก็ไม่ต้องใช้หมอน ถ้าอยากให้ลูกนอนหมอน หมอนเด็กควรจะแบนและไม่นุ่มเกินไป และต้องวักได้ เพราะเด็กมักแหวะนมลงบนหมอน ที่จริงถ้าคุณใช้ผ้าชนหนูพับเป็นหมอนให้ลูกก็จะประหยัดและทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

    มุ้ง มีทั้งประเภทมุ้งครอบและมุ้งคลุมเตียง คุณแม่จะเลือกใช้อย่างไหนก็แล้วแต่สะดวก ควรเลือกมุ้งที่โปร่งและขนาดใหญ่ เด็กจะได้ไม่ร้อนและควรทำความสะอาดบ่อย ๆ ด้วย

    ผ้าห่ม โดยทั่วไปเด็กมักจะขี้ร้อนกว่าผู้ใหญ่ นอกจากเขตที่มีอากาศหนาวเย็นทางภาคเหนือและอีสานแล้ว ผ้าห่มสำลีเกือบไม่จำเป็นสำหรับเด็กเลย สำหรับเขตที่อากาศไม่หนาว ใช้ผ้าขนหนูแทนจะดีกว่า เพราะช่วยดูดซับเหงื่อและทำความสะอาดได้

    ผ้าห่มเด็กมักเปียกบ่อย ๆ คุณแม่ควรมีผ้าขนหนูไว้หลาย ๆ ผืน และเอาไว้ใช้ได้หลายอย่าง ทำผ้าเช็ดตัวก็ได้ พับเป็นหมอนก็ได้ พับเป็นผ้ากั้นรอบ ๆ เตียงก็ได้ และเวลาอากาศร้อนมาก ใช้เป็นผ้าปูที่นอนจะช่วยดูดซับเหงื่อได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น





     ไปหน้าแรก  การดูแลเด็ก



    เตียงสำหรับเด็กแรกเกิด
    อาจจะฟังดูขัดแย้งกันสักหน่อย ถ้าจะบอกคุณว่าบ้านยิ่งแคบ เตียงเด็กก็ยิ่งจำเป็น โดยเฉพาะบ้านที่มีห้องเดียวคับแคบ ควรมีเตียงเด็กเพราะจะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ถ้าบ้านกว้างและมีลูกกรงล้อมรอบแบบบ้านในชนบทและไม่มีอันตราย เมื่อเด็กโตขึ้นคลานไปไหนเองได้ เตียงเด็กก็ไม่จำเป็น

    เตียงเด็กควรมีลูกกรงล้อมรอบกันเด็กตก ความสูงของลูกกรงควรให้สูงกว่าไหล่ของเด็กเมื่อจับยืนบนที่นอน (สูงประมาณ 70 ซม. ก็ใช้ได้) ช่องระหว่างซี่ลูกกรงควรห่างพอดีให้กำปั้นผู้ใหญ่ลอดได้ เพราะถ้ากว้างกว่านั้น เด็กอาจเอาหัวลอดออกมาแล้วค้างอยู่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ถ้าแคบกว่านั้น เวลาเด็กเอาเท้าลอดออกมาแล้วหกล้ม เท้าขัดอยู่อาจเกิดเท้าแพลงได้

    เตียงเด็กควรทำด้วยไม้ เพราะเวลาหกล้มเอาหัวไปโขกเข้าจะได้ไม่ถึงกับหัวแตก ความสูงของเตียงไม่ควรสูงจากพื้นมากนัก เวลาเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่ค่อยอันตราย แต่ถ้าเตี้ยเกินไป เวลาคุณเปลี่ยนผ้าอ้อม จะต้องก้มมากทำให้เมื่อย เตียงที่ทาสีมีอันตราย ถ้าสีที่ทานั้นมีตะกั่วผสมอยู่ เคยมีกรณีเด็กกัดซี่ลูกกรงเหล็กทาสีแล้วสารตะกั่วเข้าไปในร่างกาย เกิดตะกั่วเป็นพิษขึ้นมา

    ไปหน้าแรก  การเลี้ยงดูเด็ก
    แม่และเด็ก

    การเลือกเตียงสำหรับเด็กแรกเกิด

    rutchapong  |  at   00:26



    เตียงสำหรับเด็กแรกเกิด
    อาจจะฟังดูขัดแย้งกันสักหน่อย ถ้าจะบอกคุณว่าบ้านยิ่งแคบ เตียงเด็กก็ยิ่งจำเป็น โดยเฉพาะบ้านที่มีห้องเดียวคับแคบ ควรมีเตียงเด็กเพราะจะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ถ้าบ้านกว้างและมีลูกกรงล้อมรอบแบบบ้านในชนบทและไม่มีอันตราย เมื่อเด็กโตขึ้นคลานไปไหนเองได้ เตียงเด็กก็ไม่จำเป็น

    เตียงเด็กควรมีลูกกรงล้อมรอบกันเด็กตก ความสูงของลูกกรงควรให้สูงกว่าไหล่ของเด็กเมื่อจับยืนบนที่นอน (สูงประมาณ 70 ซม. ก็ใช้ได้) ช่องระหว่างซี่ลูกกรงควรห่างพอดีให้กำปั้นผู้ใหญ่ลอดได้ เพราะถ้ากว้างกว่านั้น เด็กอาจเอาหัวลอดออกมาแล้วค้างอยู่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ถ้าแคบกว่านั้น เวลาเด็กเอาเท้าลอดออกมาแล้วหกล้ม เท้าขัดอยู่อาจเกิดเท้าแพลงได้

    เตียงเด็กควรทำด้วยไม้ เพราะเวลาหกล้มเอาหัวไปโขกเข้าจะได้ไม่ถึงกับหัวแตก ความสูงของเตียงไม่ควรสูงจากพื้นมากนัก เวลาเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่ค่อยอันตราย แต่ถ้าเตี้ยเกินไป เวลาคุณเปลี่ยนผ้าอ้อม จะต้องก้มมากทำให้เมื่อย เตียงที่ทาสีมีอันตราย ถ้าสีที่ทานั้นมีตะกั่วผสมอยู่ เคยมีกรณีเด็กกัดซี่ลูกกรงเหล็กทาสีแล้วสารตะกั่วเข้าไปในร่างกาย เกิดตะกั่วเป็นพิษขึ้นมา

    ไปหน้าแรก  การเลี้ยงดูเด็ก



    ในข้อมูลบางที่อาจเขียนไว้ว่า ห้องเด็กควรมีอุณหภูมิเท่านั้นเท่านี้ ความชื้นเท่านั้นเท่านี้ จึงจะเหมาะสม แต่คุณไม่จำเป็นต้องเอาใจใส่เพราะห้องไหนที่พ่อแม่เคยอยู่มาได้ เด็กก็อยู่ได้เช่นกัน ถ้าอากาศร้อนก็คุณก็ใส่เสื้อให้เพียงบาง ๆ อากาศเย็นก็ใส่เสื้อให้หนาหน่อย แล้วห่มผ้าให้ เด็กควรได้รับรู้การเปลี่ยนแปลงของอากาศเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ 

    คุณพ่อคุณแม่บางคนเห็นลูกนอนห้องแอร์ตอนอยู่โรงพยาบาล กลัวลูกจะนอนที่บ้านไม่สบาย ต้องรีบไปซื้อแอร์มาติด แต่ที่จริงถ้าที่ยู่อาศัยของคุณไม่ใช่ตึกที่อับลม ร้อนอบอ้าวจนเกินไป และอากาศไม่บริสุทธิ์แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องติดแอร์ให้ลูกเป็นพิเศษแต่อย่างใด ถ้าร้อนนักก็เอาพัดพัดให้ หรือใช้พัดลมที่หมุนไปมาได้เปิดเบา ๆ ให้ลูกก็เพียงพอ


    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่นอนห้องแอร์จนติดเป็นนิสัยอยู่แล้ว ลูกของคุณก็นอนได้เช่นกัน แต่ไม่ควรปรับอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส

    เด็กเกิดใหม่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนนัก หนวกหูหน่อยก็นอนได้ และถ้าคุณมีห้องพอ ที่เด็กนอนไม่ควรติดอยู่กับที่รับแขก เพราะแขกที่มาเยี่ยมเยียนอาจนำเชื้อโรคมาติดลูกของคุณได้ ถ้าที่บ้านมีหนูควรกำจัดหนูให้หมด (ในประเทศญี่ปุ่นเคยมีคดีเด็กทารกถูกหนูกัดหน้าเหวอะหวะจนเสียชีวิต ในขณะที่แม่ไปจ่ายตลาดแล้วทิ้งให้เด็กนอนอยู่คนเดียว) เก็บเศษอาหารให้เรียบร้อยหนูจะได้ไม่มากิน และอย่าให้แมวเข้าไปในห้องเด็กได้ด้วย

    เวลาทำความสะอาดห้อง ไม่ควรให้เด็กอยู่ในห้องนั้น เพราะจะหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าไป นอกจากคุณจะใช้เครื่องดูดฝุ่น ถ้าเป็นบ้านที่มีห้องเดียวซึ่งย้ายลูกไปที่อื่นไม่ได้ และเป็นเด็กในช่วงแรกเกิด เวลาทำความสะอาดบ้านก็อย่าใช้ไม้กวาด ใช้ผ้าชุบน้ำถูเอาอย่างเดียวจะดีกว่า

     

    แม่และเด็ก

    การดูแลและจัดเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน

    rutchapong  |  at   00:44



    ในข้อมูลบางที่อาจเขียนไว้ว่า ห้องเด็กควรมีอุณหภูมิเท่านั้นเท่านี้ ความชื้นเท่านั้นเท่านี้ จึงจะเหมาะสม แต่คุณไม่จำเป็นต้องเอาใจใส่เพราะห้องไหนที่พ่อแม่เคยอยู่มาได้ เด็กก็อยู่ได้เช่นกัน ถ้าอากาศร้อนก็คุณก็ใส่เสื้อให้เพียงบาง ๆ อากาศเย็นก็ใส่เสื้อให้หนาหน่อย แล้วห่มผ้าให้ เด็กควรได้รับรู้การเปลี่ยนแปลงของอากาศเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ 

    คุณพ่อคุณแม่บางคนเห็นลูกนอนห้องแอร์ตอนอยู่โรงพยาบาล กลัวลูกจะนอนที่บ้านไม่สบาย ต้องรีบไปซื้อแอร์มาติด แต่ที่จริงถ้าที่ยู่อาศัยของคุณไม่ใช่ตึกที่อับลม ร้อนอบอ้าวจนเกินไป และอากาศไม่บริสุทธิ์แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องติดแอร์ให้ลูกเป็นพิเศษแต่อย่างใด ถ้าร้อนนักก็เอาพัดพัดให้ หรือใช้พัดลมที่หมุนไปมาได้เปิดเบา ๆ ให้ลูกก็เพียงพอ


    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่นอนห้องแอร์จนติดเป็นนิสัยอยู่แล้ว ลูกของคุณก็นอนได้เช่นกัน แต่ไม่ควรปรับอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส

    เด็กเกิดใหม่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนนัก หนวกหูหน่อยก็นอนได้ และถ้าคุณมีห้องพอ ที่เด็กนอนไม่ควรติดอยู่กับที่รับแขก เพราะแขกที่มาเยี่ยมเยียนอาจนำเชื้อโรคมาติดลูกของคุณได้ ถ้าที่บ้านมีหนูควรกำจัดหนูให้หมด (ในประเทศญี่ปุ่นเคยมีคดีเด็กทารกถูกหนูกัดหน้าเหวอะหวะจนเสียชีวิต ในขณะที่แม่ไปจ่ายตลาดแล้วทิ้งให้เด็กนอนอยู่คนเดียว) เก็บเศษอาหารให้เรียบร้อยหนูจะได้ไม่มากิน และอย่าให้แมวเข้าไปในห้องเด็กได้ด้วย

    เวลาทำความสะอาดห้อง ไม่ควรให้เด็กอยู่ในห้องนั้น เพราะจะหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าไป นอกจากคุณจะใช้เครื่องดูดฝุ่น ถ้าเป็นบ้านที่มีห้องเดียวซึ่งย้ายลูกไปที่อื่นไม่ได้ และเป็นเด็กในช่วงแรกเกิด เวลาทำความสะอาดบ้านก็อย่าใช้ไม้กวาด ใช้ผ้าชุบน้ำถูเอาอย่างเดียวจะดีกว่า

     

    บทความที่น่าสนใจ

    Powered by Blogger .