ถ้าลูกของคุณมีน้ำหนักมากกว่า 2.5
กิโลกรัมขึ้นไป ก็เรียกได้ว่าใช้ได้ เพราะเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 2.5
กิโลกรัมจะถูกจัดอยู่ในประเภท “เด็กไม่ครบกำหนด” และต้องดูแลเป็นพิเศษ
ลักษณะของเด็กที่สมบูรณ์แข็งแรงคือ สีผิวสดใสและร้องเสียงดัง
คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่า
ลูกของคุณจะถ่ายปัสสาวะครั้งแรกเมื่อไร ปกติแล้วเด็กจะถ่ายภายใน 24 ชั่วโมง
แต่เด็กแข็งแรงดีบางคนอาจไม่ถ่ายภายใน 24 ชั่วโมงก็มี
คุณอาจตกใจเมื่อเห็นปัสสาวะของเด็กมีสีแดงอ่อนคล้ายสีอิฐ
เนื่องจากเป็นเกลือของกรดยูริก ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาอะไร
สำหรับอุจจาระก็เช่นเดียวกัน
เด็กจะถ่ายอุจจาระครั้งแรกใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
อุจจาระจะมีสีเขี้ยวคล้ำหรือสีเทาดำเหนียว ๆ เรียกว่า “ขี้เทา”
เด็กแรกเกิดจะร้องบ้างเป็นบางครั้ง
แต่ส่วนใหญ่จะนอนหลับ รูปหัวของเด็กมักจะเบี้ยวบูดเพราะถูกบีบระหว่างผ่านช่องคลอด
โดยเฉพาะลูกคนแรกหรือลูกของหญิงมีอายุ หัวมักจะปูดเห็นได้ชัด
ลักษณะเช่นนี้จะหายไปเองโดยธรรมชาติ
ถ้าคุณคลำหัวเด็กตอนบนด้านหน้าอาจตกใจเมื่อพบส่วนที่ไม่มีกะโหลกและนิ่มบุ๋มลงไป
ซึ่งเราเรียกว่า “กระหม่อม”
ทั้งนี้เพื่อให้รูปหัวของเด็กเปลี่ยนแปลงได้ในขณะที่ผ่านช่องคลอดของแม่
ใบหน้าของเด็กแรกเกิดจะดูบวม
โดยเฉพาะบริเวณเปลือกตา คุณอาจเห็นเด็กมีขี้ตาติดอยู่
เนื่องจากพยาบาลได้หยอดยาฆ่าเชื้อโรคให้
สำหรับเด็กผู้หญิงคุณไม่ต้องกังวลเมื่อเห็นจมูกแบน จมูกจะโด่งขึ้นเมื่อโต
คุณอาจเห็นสายสะดือมีสีคล้ำ ๆ
น่าเกลียด อวัยวะเพศของเด็กชายจะดูเหมือนว่าบวม ของเด็กหญิงก็ดูผิดรูปผิดร่าง
ซึ่งก็จะดีขึ้นเองตามธรรมชาติ
เด็กจะนอนหงายท่าเดียวกับที่อยู่ในท้องแม่
ปกติเด็กซึ่งเอาหัวออกก่อน จะนอนตัวงอเอาคางชิดหน้าอก มือกำ งอแขนงอขาเข้าหาตัว
ที่ก้นอาจเห็นมีรอยสีเขียว ๆ
เรียกว่า “ปานเขียว” ซึ่งจะหายไปเองเมื่อโตขึ้น ตามคอ เปลือกตา จมูก
อาจมีไฝสีแดงขนาดเท่าเม็ดข้าวหรือถั่วแดง ซึ่งก็จะหายไปเองภายในหนึ่งปี
ถึงแม้อากาศจะร้อน
เหงื่อของเด็กแรกเกิดจะยังไม่ออก น้ำลายก็ยังไม่ไหล
เพราะท่อขับสิ่งเหล่านี้ยังไม่ทำงาน ตายังมองไม่เห็น แต่จะได้ยินเสียงดัง ๆ
ถ้าลองปิดประตูดังปังจะสะดุ้ง อุณหภูมิร่างกายของเด็กเมื่อแรกเกิดจะเท่ากับของแม่
หลังจากนั้นจะลดลงประมาณ 1-3 องศาเซลเซียส และต่อมาอีก 8 ชั่วโมง
อุณหภูมิจะขึ้นไปอีก (ราวประมาณ 36.8-37-2 องศาเซลเซียส) เด็กจะหายใจประมาณ 34-35
ครั้งต่อนาที ชีพจรเต้น 120-130 ครั้งต่อนาที
ไปหน้าแรก การดูแลเด็กอ่อน